เนื้อหา:เมื่อช่วงประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดลูกหนังในประเทศจีน มหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกเติบโตอย่างก้าวกระโดด มีนักเตะชื่อดังมากมายเลือกตามกลิ่นเงินหยวนไปค้าแข้งในลีก ซึ่งมาตรฐานของผู้เล่นต่ำ แต่ค่าตอบแทนสูง จนทำให้มีนักเตะที่ค่าเหนื่อยติดอันดับท็อปของโลก ค้าแข้งในลีกจีนทั้ง คาร์ลอส เตเบซ, ฮัลค์, ออสการ์, รามิเลส และ เปาลินโญ่ ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เลือกที่จะไปโกยเงิน โดยทิ้งความท้าทายของการแข่งขันในลีกที่มาตรฐานสูงกว่าในยุโรปเอาไว้เบื้องหลัง โดยเขาเลือกที่จะไปเล่นกับ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ยักษ์ใหญ่ในลีกจีน หลายคนคิดว่าเส้นทางลูกหนังของดาวเตะรายนี้ได้จบลงกับขุมทองบ่อสุดท้ายในอาชีพ เขาคงเลือกที่จะไปโกยเงินหยวนให้สาแก่ใจก่อนที่จะแขวนสตั๊ดและไปใช้ชีวิตสุขสบายอยู่มุมไหนในโลก
แต่กลับกลายเป็น บาร์เซโลน่า ทีมยักษ์ใหญ่แห่ง ลาลีก้า ที่ตัดสินใจซื้อตัวเขากลับมาจากลีกจีน และเบื้องหลังคือ ลิโอเนล เมสซี่ ขาใหญ่ของทีมคือผู้อยู่เบื้องหลังดีลนี้ จากากรเปิดเผยให้ปากคำของ เปาลินโญ่ เอง ว่าเมสซี่คือคนที่มาเชิญชวนให้เขากลับมาเล่นในยุโรปด้วยการร่วมทีมเดียวกันอีกครั้ง เมื่อได้รับคำเชิญจากนักเตะระดับเมสซี่คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธ ว่าแล้วเปาลินโญ่ ก็เลือกทิ้งเงินหยวนมาอยู่กับบาร์เซโลน่า
แต่ชื่อของเปาลินโญ่ ไม่ได้เป็นที่ดึงดูดแฟนบอล และวันเปิดตัวของเราเป็นวันที่กร่อยสิ้นดี แม้แต่เสื้อแข่งขันของเขาก็ยังขายไม่ได้ ถ้าเทียบกับ เนย์มาร์ ซูเปอร์สตาร์ บราซิลคนก่อนมันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว และมันทำให้แฟนบาร์ซ่าไม่คาดหวังอะไรในตัวเขา แต่มันกลับเป็นข้อดีเพราะเปาลินโญ่ได้ลงเล่นแบบไร้แรงกดดัน
และมันทำให้เขาผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ จากสถิติลงสนาม 17 เกมและยิงได้ 7 ประตูถือว่าไม่ธรรมดาและพูดได้ว่าเขาคือคนที่พาบาร์ซ่ากลับมาอยู่หัวตารางและกำลังลุ้นแชมป์ลาลีก้าสเปน ในตอนนี้ และแสดงให้แฟนบอลทั้งโลกเห็นว่า ฝีเท้าของเขายังเล่นในยุโรปได้สบายๆ และเขาไม่ใช่ดาวเตะหน้าเงิน แน่นอนว่ามันส่งผลดีกับประเทศบราซิลด้วย เพราะนักเตะได้กลับมาแข่งขันในลีกมาตรฐานสูง และจะได้พัฒนาฝีเท้าสำหรับฟุตบอลโลกในปี 2018 ที่กำลังจะระเบิดศึกขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
